12 เรื่องราวของเจ้าแมลงสาบ

หากถามว่าใครกลัวแมลงสาบบ้าง?เชื่อว่าหลายๆ คนคงรีบยกมือกันให้พรึบพรับแน่นอน เพราะด้วยรูปลักษณ์ที่ชวนขนลุก บวกกับกลิ่นเฉพาะตัวที่ไม่น่าพิสมัยของมัน ทำให้เมื่อพบเจอ เราต่างก็กระโดดหลบหนีไปตามๆ กัน แมลงสาบอยู่คู่กับโลกของเรามาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์  และเป็นสัตว์ที่ชอบเข้ามาอาศัยและหากินในบริเวณบ้านของเรา ซึ่งสำหรับใครที่เห็นแมลงสาบแล้วเกิดความสงสัยในวิถีความเป็นอยู่ของมัน วันนี้ เรามาทำความรู้จักเรื่องราวของมัน ผ่าน 12 ข้อต่อไปนี้กันค่ะ

  1. แมลงสาบเป็นแมลงที่มีอยู่หลายชนิด โดยมีมากกว่า 4,000 ชนิดทั่วโลกด้วยกัน
  2. สายพันธุ์ของแมลงสาบที่สามารถพบได้ในประเทศไทยนั้น มีไม่กี่สายพันธุ์ ประกอบไปด้วย แมลงสาบอเมริกัน  แมลงสาบออสเตรเลีย แมลงสาบสามัญ แมลงสาบเยอรมัน แมลงสาบลายน้ำตาล และแมลงสาบแกลบ โดยความแตกต่างที่เห็นได้ชัดของแต่ละสายพันธุ์คือสี มีตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อน สีน้ำตาลเข้ม ไปจนถึงสีดำ
  3. แมลงสาบที่พบได้มากที่สุดตามบ้านเรือนของเราคือแมลงสาบอเมริกัน มีสีที่สังเกตได้ง่ายคือสีน้ำตาลเข้มนั่นเอง
  4. อายุของแมลงสาบแต่ละสายพันธุ์จะมีความแตกต่างกัน ซึ่งบางสายพันธุ์นั้นสามารถอยู่ได้เป็นปีเลยทีเดียว
  5. เราจะเห็นว่า หนวดสองเส้นของแมลงสาบนั้นชอบขยับไปมาประหนึ่งเรดาร์คอยตรวจจับ ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่า แมลงสาบต้องอาศัยหนวดของมันในการหาอาหาร ดมกลิ่น และนำทางนั่นเอง
  6. ถุงไข่ของแมลงสาบจะมีลักษณะคล้ายเม็ดมะขามสีน้ำตาลเข้ม โดยภายในถุงไข่ใบเล็กจิ๋วนั้น สามารถบรรจุไข่เอาไว้ได้อย่างมากมาย สำหรับถุงไข่ของแมลงสาบอเมริกันที่พบได้มากตามบ้านเรือนของเรานั้น มีไข่มากถึง 15-30 ฟองเลยทีเดียว
  7. แมลงสาบชอบอาศัยอยู่ตามที่มืดๆ ที่มีความชื้นสูง มักออกหากินในเวลากลางคืนในขณะที่ไฟถูกปิดสนิทหมด และต้องบอกว่า แมลงสาบสามารถกินอาหารได้หลากหลาย แทบจะกินทุกอย่างเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นเศษอาหาร พืช ซากสัตว์
  8. สำหรับเพศของแมลงสาบสายพันธุ์อเมริกันนั้น เราสามารถสังเกตได้จากปีกของมัน โดยแมลงสาบเพศผู้จะมีปีกที่ยาวกว่าเพศเมีย คือยาวเลยส่วนท้องของมันนั่นเอง
  9. ส่วนกลิ่นสาบที่ติดตัวเจ้าแมลงสาบ ซึ่งเป็นเสมือนเอกลักษณ์ของมันนั้น คือกลิ่นฟีโรโมนที่พวกมันปล่อยออกมาเพื่อดึงดูด และตอบรับกันและกันในการผสมพันธุ์นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าเป็นกลิ่นที่เราเกลียดกันที่สุด
  10. แมลงสาบเป็นสัตว์สุดยอดแห่งความอึด เพราะขนาดที่ว่าหัวขาดออกจากตัว มันก็ยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้ระยะหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งนั่นเป็นเพราะว่า แมลงสาบไม่มีแรงดันเลือด เมื่อหัวของมันขาดออกจากตัว แผลจึงสมานอย่างรวดเร็วด้วยก้อนเลือดที่แข็งตัว อีกทั้งมันยังสามารถหายใจผ่านท่อหายใจเล็กๆ ตามร่างกายได้โดยไม่ต้องใช้ส่วนสมองควบคุมการหายใจนั่นเอง
  11. หลายๆ คนสงสัยว่าทำไมเวลาแมลงสาบตายจึงหงายท้อง นั่นก็เป็นเพราะว่า โดยมากแมลงสาบจะเกิดอาการอัมพาตจากการโดนสารกำจัดแมลงที่เข้าไปส่งผลต่อระบบประสาทของมัน ขาของมันจึงงอเข้าหาตัว ทำให้ไม่มีความสามารถในการทรงตัวอีกต่อไป และหงายล้มลงในที่สุด
  12. ใช่ว่าแมลงสาบจะเป็นสัตว์ที่น่าขยะแขยงและไร้ประโยชน์เสมอไป เพราะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการตกปลาแล้ว แมลงสาบสีขาวที่เพิ่งลอกคราบได้ไม่นานนั้น ถือเป็นเหยื่อตกปลาชั้นดีทีเดียว

ทั้งนี้ แมลงสาบไม่เพียงแต่จะเป็นสัตว์ที่สร้างความรำคาญและความเสียหายแก่ข้าวของเครื่องใช้ของเราเท่านั้น แต่มันยังเป็นพาพะนำเชื้อโรคต่างๆ มาสู่เราได้อีกด้วย ดังนั้นจึงควรป้องกันและกำจัดด้วยการจัดเก็บบ้านให้สะอาด รวมถึงใช้ผลิต��ัณฑ์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์แต่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดแมลงสาบด้วยเช่นกัน

 

อ้างอิงข้อมูลจาก
http://pasusat.com/แมลงสาบ/
http://www.dnp.go.th/FOREMIC/WEB%20SITE2/news15.php
http://www.indepencil.com/หัวขาด-รู้สึกอย่างไร/

Share:

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข่าวและกิจกรรม

สาระน่ารู้